อาหารบำรุงครรภ์คุณแม่ท้อง 8 เดือน

รูปภาพ
อาหารบำรุงครรภ์คุณแม่ท้อง 8 เดือน ในช่วงเวลาของการตั้งครรภ์เดือนที่ 8 นั้นถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มากๆ เพราะสำหรับคุณแม่บางคนนั้น หลังจากที่ได้ปรึกษาคุณหมอ ตามโรงพยาบาล หรือ คลินิกฝากครรภ์ แล้ว เรื่อง ของกระบวนการผลิตน้ำนมเริ่มทำงานแล้ว การเลือกทานอาหารบำรุงครรภ์จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะแม้ว่าจะเป็นเดือนที่ทารกน้อยมีพัฒนาการที่พร้อมจะคลอดออกมาแล้ว แต่น้ำหนักของเขาก็มีเพียงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตอนคลอดออกมา มาดูกันว่าอาหารที่ช่วยบำรุงครรภ์ในเดือนนี้คุณแม่ควรทานอะไรกันบ้าง อาหารที่อุดม ด้วยวิตามินซี สำหรับอาหารที่ให้วิตามินซีแก่ร่างกายมีส่วนช่วยในเรื่องของการดูดซึมธาตุเหล็ก เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของคุณแม่สามารถนำไปใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตไม่ให้อยู่ในระดับที่สูงมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภูมิต้านทานในการป้องกันโรค ทำให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ อาหารที่อุดม ด้วยวิตามินดี อาหารจำพวกน้ำมันตับปลา นม เนย ไขมัน ปลาทู ไข่แดง ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาไหล ปลาแมคคาเรล มาการีน ผักสีเขียวเหลือง แ

ตั้งครรภ์: ตกเลือดหลังคลอด อันตรายที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม


คลินิกฝากครรภ์ นนทบุรี

ในช่วงภาวะของการตกเลือดหลังคลอด นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ความอันตรายที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม

แม้ว่าช่วงหลังการคลอด จะมีเลือดเสียจำนวนหนึ่งถูกขับออกมาจากร่างกาย ซึ่งนั่นอาจทำให้ดูเป็นเรื่องปกติ

แต่ถ้าหากพบว่าการออกของเลือดนั้นมีปริมาณสูงมากและไม่ยอมหยุดไหล ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุของการตกเลือดหลังคลอดถูกแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลักๆ ดังนี้




  • มีอาการกล้ามเนื้อมดลูกหดตัว

สำหรับปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อมดลูกหดตัว จะอยู่ในภาวะตกเลือดระยะแรก ที่อาจจะเกิดจากกรณีที่เด็กมีตัวใหญ่เกินไปหรือเป็นการคลอดแบบลูกแฝด

จึงทำให้เกิดการฉีกขาดของปากมดลูกที่มากกว่าปกติ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการพบเนื้องอกภายในมดลูก และ การคลอดที่ทิ้งเศษรกไว้ภายในมดลูกด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ก็ยังรวมไปถึง อาการผิดปกติของหลอดเลือดที่แข็งตัวแบบเฉียบพลันอีกด้วย

  • มีอาการการติดเชื้ออย่างรุนแรง

เรื่องการติดเชื้อแบบรุนแรง นั้นจะอยู่ในช่วงของการตกเลือดระยะหลัง คือ เมื่อเกิดการคลอดไปแล้วประมาณ 2 วัน จนถึง 3 เดือน

แล้วเกิดการตกเลือดที่มีปริมาณของเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก การติดเชื้อนั้นอาจเกิดจากถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการคลอดมาเป็นเวลานาน หรือได้มีการตรวจภายในระหว่างตั้งครรภ์บ่อยครั้ง

โดยในช่วงที่คลอดอาจมีเศษรก ที่ยังคงติดอยู่ภายในของโพรงมดลูก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดที่ไม่เพียงพออีกด้วย




เราจะรู้ได้อย่างไร ว่ากำลังเสี่ยงต่อภาวะ ตกเลือดหลังคลอด

การตกเลือดหลังคลอด ในระยะแรกๆ นั้น ให้คุณสังเกตดูตัวเองว่ามีเลือดออกมากผิดปกติ หรือมีจำนวนเลือดออกมาในปริมาณสูงและไหลไม่หยุด จนกระทั่งออกมาเป็นลิ่มเลือดหรือไม่

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอาการหมดแรง และ คล้ายจะเป็นลมอยู่เสมอ โดยจะมีอาการของไข้ขึ้น, ปวดตัว และ ยังปวดท้องน้อยร่วมด้วย

ถ้าหากพบว่ามีอาการทั้ง 2 แบบนี้ ช่วงหลังการคลอด ที่ไม่ว่าจะคลอดออกมาเพียงแค่ 1 วัน หรือหลัง 3 เดือน

คุณควรจะเข้ารับการตรวจมดลูกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการรักษาทันที เพื่อไม่ให้คุณต้องเสี่ยงต่อสภาวะการเสียชีวิตจากการเสียเลือด และ ติดเชื้อรุนแรงได้

เมื่อคุณพบว่าคุณอยู่ในความเสี่ยงของการตกเลือดหลังคลอด

สิ่งแรกที่คุณควรทำ นั่นก็คือการเข้าพบแพทย์ทันที เพื่อให้คุณได้รับการรักษาอย่างทันเวลา

เพราะแพทย์ต้องวินิจฉัย และ เลือกทางรักษาแบบเร่งด่วนเพื่อไม่ให้การตกเลือดนี้มีเพิ่มมากขึ้น

การรักษาของแพทย์จะมีตั้งแต่

  • การเย็บซ่อมมดลูก
  • การขูดมดลูก
  • การให้เลือด
  • การให้สารแข็งตัวของเลือด
  • อาจต้องมีการให้น้ำเกลือเพิ่มเติม


ดังนั้น เมื่อพบปัญหาแบบนี้ คุณไม่ควรนิ่งนอนใจ แต่ควรรีบจัดการปัญหาโดยด่วนเพื่อให้คุณไม่ต้องเสี่ยงต่อสภาวะเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน

ที่มา: ตกเลือดหลังคลอด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

7 สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่ากำลัง ตั้งครรภ์

อาหารบำรุงครรภ์แม่ 6 เดือน เสริมสุขภาพทารกให้แข็งแรง

อาหารบำรุงครรภ์ 2 เดือน เสริมสุขภาพแม่ท้องและทารกให้แข็งแรง